"หมีขาว"รัสเซีย ผงาดขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอฟ หลัง อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ยิงประตูชัยช่วยทีมเปิดบ้านเอาชนะ "ฝอยทอง"โปรตุเกส ไป 1-0 ในเกมนัดที่3 การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป...
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อวันที่ 12 ต.ค. เกมที่น่าสนใจเกมนัดที่ 3 ของกลุ่ม เอฟ ณ สนามลุซหนิกี "หมีขาว"รัสเซีย เปิดบ้านพบกับ "ฝอยทอง"โปรตุเกส
เกมนี้ ฟาบิโอ คาเปลโล เทรนเนอร์ทัพหมีขาวได้ อิกอร์ เดนิซอฟ กัปตันทีม และ วลาดิเมียร์ บิสตรอฟ ลงเป็นตัวจริง ในขณะที่หน้าเป้าเป็นหน้าที่ของ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ในขณะที่ เปาโล เบนโต กุนซือโปรตุเกสมีข่าวดีเมื่อ คริสเตียโน โรนัลโด กัปตันทีมฟิตพร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับ เปเป้
เริ่มเกมได้เพียง 6 นาที ทีมเจ้าถิ่นก้มีเฮ วิคเตอร์ ฟายซูลิน ตบบอลจากซ้ายเข้ากลาง โรมัน ชิโรคอฟ เบิลทะลุช่องให้ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ สปีดหนี เปเป้ หลุดเข้าไปยิงสวน รุย ปาทริซิโอ นายด่านฝอยทองตุงตาข่าย รัสเซีย ขึ้นนำไปก่อน 1-0
เกมนี้ ฟาบิโอ คาเปลโล เทรนเนอร์ทัพหมีขาวได้ อิกอร์ เดนิซอฟ กัปตันทีม และ วลาดิเมียร์ บิสตรอฟ ลงเป็นตัวจริง ในขณะที่หน้าเป้าเป็นหน้าที่ของ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ในขณะที่ เปาโล เบนโต กุนซือโปรตุเกสมีข่าวดีเมื่อ คริสเตียโน โรนัลโด กัปตันทีมฟิตพร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับ เปเป้
เริ่มเกมได้เพียง 6 นาที ทีมเจ้าถิ่นก้มีเฮ วิคเตอร์ ฟายซูลิน ตบบอลจากซ้ายเข้ากลาง โรมัน ชิโรคอฟ เบิลทะลุช่องให้ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ สปีดหนี เปเป้ หลุดเข้าไปยิงสวน รุย ปาทริซิโอ นายด่านฝอยทองตุงตาข่าย รัสเซีย ขึ้นนำไปก่อน 1-0
นาทีที่ 15 โปรตุเกสได้โอกาสลุ้นตีเสมอจากลูกฟรีคิกบอลถูกเปิดเข้าหน้าประตูให้ บรูโน อัลเวส เบียดแนวรับเจ้าถิ่นขึ้นโขกเต็มเหน่งแต่ อีกอร์ อาคินเฟเยฟ ออกแรงเซฟปัดทิ้งไปได้ และในนาทีที่ 33 เข้าถิ่นหวิดเติมสกอร์ อเล็กซานเดอร์ โคโคริน สะกิดต่อบอลในกรอบเขตโทษให้ เคอร์ซาคอฟ วิ่งเข้ามาสังหารแต่ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย หมดเวลการแข่งขันครึ่งแรก รัสเซีย นำ โปรตุเกส 1-0
กลับมาต่อในครึ่งหลัง"ฝอยทอง"เคาะบอลหาโอกาสทำประตู ต่อแต่ก็ยังไม่มีโอกาสแถมจะหวิดโดนประตูที่สองในนาทีที่ 81 จากจังหวะที่ โคโคริน พาบอลลุยมาจากกลางสนามก่อนจะเล็งไกลแต่ ปาทริซิโอ เซฟได้
หลังจากนั้นทั้งสองทีมต่างก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที "หมีขาว"รัสเซีย เอาชนะ"ฝอยทอง"โปรตุเกส 1-0 คว้าชัย 3 นัดติดขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเอฟ.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น